1. สระมรกต
อ.คลองท่อม
สระมรกต สระน้ำกลางผืนป่าที่ราบต่ำ ที่มีสีเขียวมรกตสมชื่อ
โดยมีรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างประมาณ 25 เมตร ยาว 20
เมตร และมีระดับความลึกราว 1.5-2 เมตร ซึ่งเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็ไม่ใช่เพราะคราบตะไคร่เขียวอี๋
หากแต่เป็นแบคทีเรียและสาหร่ายในน้ำซึ่งจะทำให้น้ำมีสีต่างๆ แตกต่างกัน
โดยอุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ 30-50 องศาเซลเซียส
และนอกจากนั้นสายน้ำแร่ใต้ดินที่มีอยู่บริเวณนี้ยังทำให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอน
จึงทำให้น้ำมีความใสมากอีกด้วย
ซึ่งถ้าเราเดินขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเห็นต้นน้ำที่ไหลเป็นสายลงมารวมกันจนกลายเป็น สระมรกต แห่งนี้
2. น้ำตกร้อนคลองท่อม อ.คลองท่อม
เป็นน้ำพุร้อนแห่งหนึ่งในบรรดาน้ำพุร้อนอีกหลายแห่งที่กระจัดกระจายอยู่ในบริเวณนี้
น้ำจะไม่ร้อนมาก มีอุณหภูมิประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส
เป็นน้ำร้อนที่ซึมขึ้นมาจากผิวดินซึ่งมีป่าละเมาะปกคลุมร่มรื่น
สายน้ำไหลไปรวมกันตามความลาดเอียงของพื้นที่
บางช่วงมีควันกรุ่นและคราบหินปูนธรรมชาติพอกอยู่เป็นชั้นหนาทำให้เกิดทัศนียภาพสวยงามแปลกตา
โดยเฉพาะบริเวณที่ธารน้ำร้อนไหลลงสู่คลองท่อมลดระดับเกิดเป็นลักษณะคล้ายชั้นน้ำตกเล็ก
ๆ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 90 บาท
3. เกาะรอก
เกาะรอก ตั้งอยู่ในน่านน้ำทะเลกระบี่ ที่เชื่อมต่อทะเลตรัง ลักษณะเป็นสองเกาะเล็กๆ
ตั้งคู่กันเป็นเกาะที่มีหาดทรายที่ยาวเหยียด และยังเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ย่อยของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา
เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเกาะรอกนอกและเกาะรอกใน และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่ง
ด้านทิศตะวันออกมีหาดทราย และแนวปะการังเป็นกลุ่มๆ ตามโขดหิน ด้านทิศเหนือของเกาะมีแหลมธงและอ่าวศาลเจ้า
ผืนทรายที่เกาะรอกในละเอียดขาวเนียน น้ำทะเลใสเป็นสีเขียวจนมองเห็นปลาหลากสีสัน
เป็นความบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่ยังไม่มีใครเดินทางมาสัมผัสมากนัก
4. หาดไร่เลย์
หาดไร่เลย์
อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา– หมู่เกาะพีพี
ได้ชื่อว่าเป็นเกาะพีพีแห่งที่ 2
ของจังหวัดกระบี่ เป็นหาดที่งดงามด้วยหินผาสูงตระหง่าน
และถือว่าเป็นแหล่งกีฬาปีนผาที่ลือชื่อ
ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติต่างให้ความสนใจอยากมาลองสัมผัสประสบการณ์อันน่าท้าทายนี้ การเดินทางไปเที่ยวไร่เลย์
สามารถนั่งเรือได้ที่ท่าเรือหางยาวที่สะพานเจ้าฟ้า ตัวเมืองกระบี่ ค่าโดยสารประมาณ
100 บาท หรือที่ อ่าวนาง และอ่าวน้ำเมา ค่าเรือโดยสารประมาณ 50
บาท ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10-15 นาที
5. วัดถ้ำเสือ อ.เมือง
วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง
รวมทั้งชาวต่างประเทศ ทั้งความโดดเด่นของวัดและชื่อเสียงของ “หลวงพ่อจำเนียร” ประธานสงฆ์วัดถ้ำเสือที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธามาช้านาน
และยังเป็นที่ปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐานที่น่าสนใจอีกด้วย สภาพโดยทั่วไปของวัดถ้ำเสือมีลักษณะ
เป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผาและแหล่งถ้ำธรรมชาติ เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด
ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำงู ถ้ำเต่า ถ้ำมือเสือ สิ่งสำคัญใน “วัดถ้ำเสือ” นั้นที่ดูเหมือนจะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดและ
เป็นที่นิยมชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
6. อ่าวมาหยา
อ่าวมาหยา ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล เกาะขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ อ่าวมาหยาเกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ จากการพังทลายของหน้าผาที่โอบล้อม
แหว่งเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยเขาหินปูน อ่าวมาหยา นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์อีกจุดหนึ่งของทะเลกระบี่ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาพักผ่อนทิ้งตัวทิ้งใจลงบนหาดทรายขาวละเอียดที่เค้าว่ากันว่าละมุนเหมือนผงแป้ง นอนแช่น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแวดล้อมซึ่งปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้ชายทะเล
จึงไม่แปลกใจเลยที่ต่างชาติจะยกให้ “อ่าวมาหยา” เป็นทะเลไทยที่สวยติดอันดับโลก
7. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา
เป็นหมู่เกาะที่ประกอบไปด้วยอ่าวและหาดทรายที่สวยงามมากมายหลายที่ด้วยกัน
อ. เกาะลันตา ประกอบด้วยเกาะสามเกาะเรียงตัวจากเหนือ-ใต้ อันได้แก่ เกาะลันตาน้อย
เกาะกลาง และเกาะลันตาใหญ่ และเกาะเล็กๆ อีก มากมายราว 49 เกาะ
มีจุดดำน้ำดูปะการังที่สวยงามคือ “หินม่วง หินแดง” บริเวณนี้จะได้พบกับ ภูเขาใต้น้ำจำนวน 2 ลูก โดย “ยอดหินม่วง” จะจมอยู่ใต้น้ำ และ “ยอดหินแดง” จะปรากฎปริ่มๆน้ำ
ที่นี่จัดเป็นแหล่งดำน้ำที่ติดอันดับความสวยงามและสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
และมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่ อย่าง วาฬ, ฉลามวาฬ และแมนต้าเรย์
รวมถึงกระเบนราหู กระเบนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
8. ถ้ำผีหัวโต
อ.อ่าวลึก
ถ้ำผีหัวโตหรือถ้ำหัวกะโหลก
อยู่ห่างจากอุทยานธารโบกขรณี ประมาณ 6
กิโลเมตร และห่างจากถ้ำลอดประมาณ 500 เมตร
ที่มีชื่อว่า ถ้ำหัวกะโหลก เนื่องจากแต่เดิมภายในถ้ำเคยมีหัวกะโหลกมนุษย์
ที่มีขนาดโตกว่าปกติ นอกจากนี้
บนผนังถ้ำยังปรากฎภาพเขียนสีก่อนสมัยประวัติศาสตร์จำนวนมาก อาทิ รูปคน รูปสัตว์
ฯลฯ สามารถพายเรือแคนูชมทิวทัศน์ป่าชายเลนที่สงบร่มรื่นได้
ค่าเช่าเรือแคนู 1,200 บาทต่อคน รวมอาหารกลางวัน โดยสามารถเช่าเรือได้จากบริเวณท่าเรือบ่อท่อ
9. ป่าพรุท่าปอม คลองสองน้ำ อ.เมือง
ป่าพรุท่าปอมเป็นป่าที่มีแหล่งน้ำสวยงามหลายแห่ง
มีต้นกำเนิดจากแอ่งน้ำช่องพระแก้ว
ซึ่งเป็นน้ำจืดใสสะอาดจนมองเห็นพื้นน้ำและรากไม้ป่าหลุมพี ไหลเอื่อย
มาบรรจบกับป่าโกงกางสู่ทะเลซึ่งเป็นน้ำเค็ม จึงได้ชื่อว่าคลองสองน้ำ
ภายในมีทางเดินศึกษาธรรมชาติ ทำด้วยไม้ระแนง บางช่วงมีเก้าอี้ไม้ ให้นักนิยมไพรผู้รักธรรมชาติได้นั่งพักชมทัศนียภาพสองข้างทาง
บางส่วนอนุญาตให้ลงเล่นน้ำได้
ถึงแม้บริเวณที่เิปิดให้นักท่องเที่ยวที่วไปได้ลงเล่นน้ำจะไม่กว้างนัก แต่ก็มีปบลาสองน้ำที่หาดูในที่อื่นๆ
ได้ไใม่ง่ายนัก อย่างเช่น ปลาตะกรับเสือดาว ปลาอมไข่น้ำจืด และปลาปักเป้าเขียว เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ค่าธรรมเนียมสำหรับคนไทย
ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท ชาวต่างชาติ
ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท
10. เกาะปอดะ อ.เขาพนม
เกาะปอดะเป็นหนึ่งในหมู่เกาะปอดะ
อันประกอบด้วยเกาะปอดะ เกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ เป็น 4 เกาะเด่น
ที่สามารถรวมเป็นโปรแกรมเที่ยวภายในหนึ่งวันได้
นับเป็นรายการท่องเที่ยวยอดนิยมของทะเลกระบี่
เพราะเดินทางสะดวกและค่าใช้จ่ายไม่มาก หากเลือกพักที่อ่าวนางจะสามารถเหมาเรือหางยาวหรือเรือหัวโทงมาเที่ยวชมหาดทรายสวยๆ
ของเกาะเหล่านี้ได้ โดยเกาะปอดะเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด
มีหาดทรายขาวยาวกว่ากิโลเมตรทางด้านทิศตะวันออกของเกาะ บรรยากาศร่มรื่นด้วยทิวสน
น้ำทะเลใสจนเห็นทรายสีขาวอยู่ใต้น้ำ เกาะปอดะยังเป็นสวรรค์ของนักอาบแดด
บริเวณทิศเหนือและทิศตะวันออกก็มีแนวปะการังให้ดำน้ำชมได้ดี
นอกจากนี้บริเวณชายหาดยังมีกิจกรรมทางทะเลเช่น พายเรือคายัค คอยให้บริการ
หรือจะเล่นน้ำอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น